หมอหวาน รอดม่วง

หมอหวาน รอดม่วง
หมอหวาน รอดม่วง (พ.ศ. ๒๔๑๓ - พ.ศ. ๒๔๘๘)

 

หมอหวาน รอดม่วง เกิดเมื่อปีพ.. ๒๔๑๓ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ในอดีต หมอไทยแบ่งออกเป็น ประเภท คือ หมอหลวง ซึ่งรักษาในราชสำนัก และหมอเชลยศักดิ์หรือหมอราษฎร ซึ่งรักษาประชาชนทั่วไป หมอหวานเป็นหมอเชลยศักดิ์ แม้มิได้สังกัดกรมหมอหลวง แต่ได้มีโอกาสถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ อัครมหาเสนาบดี ในรัชกาลที่ โดยหมอหวานได้รับประทานกล่องเครื่องประดับจากม..หญิงพิจิตรจิราภา เทวกุล พระธิดา เป็นที่ระลึกจากการถวายการรักษาเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ประชวรครั้งสุดท้าย

 

กล่องของขวัญประทาน1

กล่องของขวัญประทานด้านใน

 กล่องเครื่องประดับที่หมอหวานได้รับประทานจากม..หญิงพิจิตรจิราภา เทวกุล พระธิดา ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ที่ฝากล่องด้านใน ปรากฏลายพระหัตถ์ เป็นข้อความว่า

ให้หมอหวานด้วยความขอบใจ ที่ได้ช่วยพยาบาลเสด็จพ่อในคราวประชวรครั้งสุดท้าย
พิจิตรจิราภา
สิงห์ ๖๖

 

เดิมหมอหวานมีร้านขายยาชื่อ ร้านจำหน่ายยาไทยตราเฉลว อยู่ริมถนนเจริญกรุงติดสี่แยกอุณากรรณ จวบจนปีพ.. ๒๔๖๖ หมอหวานได้ย้ายไปอยู่ตึกใหม่ที่สร้างขึ้นบนถนนบำรุงเมือง ถัดจากสี่แยกมาหนึ่งช่วงห้องแถว และให้ชื่อร้านใหม่ว่า บำรุงชาติสาสนายาไทย

โฆษณาน้ำดอกไม้เทศของหมอหวาน

แผ่นภาพโฆษณาหรือแจ้งความน้ำดอกไม้เทศกรุงสยาม ซึ่งจำหน่ายที่ร้านจำหน่ายยาไทยตราเฉลว

 

แผนที่สี่แยกอุณากรรณ

แผนที่สมัยรัชกาลที่ บริเวณถนนเจริญกรุงตัดกับถนนอุณากรรณ ร้านจำหน่ายยาไทยตราเฉลว คือร้านที่ ถัดจากหัวมุม ตามที่หมอหวานระบุในเอกสารกำกับยา

ที่มาของภาพ: หน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ห้างขายยาโอสถสยาม

บรรยากาศร้านขายยาในสมัยของหมอหวาน ห้างขายยาโอสถสยามอยู่ตรงข้ามกับร้านจำหน่ายยาไทยตราเฉลว 
ที่มา: สมุดแสดงภาพที่ระลึกสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๘

  

สถานีสามยอด
ตำแหน่งที่ตั้งร้านจำหน่ายยาไทยตราเฉลวในอดีต ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามยอด

  

ปีพระพุทธศักราช ๒๔๖๖ นับเป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อหมอไทยจำนวนมาก มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการแพทย์ฉบับแรกขึ้น ด้วยความห่วงใยของภาครัฐที่มีต่อความปลอดภัยของอาณาประชาราษฎร์ ให้ปลอดภัยจากการประกอบโรคศิลปะโดยผู้ที่ไร้ความรู้และมิได้ฝึกหัด" ผู้ที่จะประกอบอาชีพแพทย์ได้จะต้องมีประกาศนียบัตรและขึ้นทะเบียนขอใบอนุญาตจากทางการ จึงจะสามารถรักษาคนไข้ได้

2466
พระราชบัญญัติการแพทย์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๖

 

แม้พระราชบัญญัติดังกล่าวจะมีคุณอเนกอนันต์ต่อการพัฒนาด้านการแพทย์และการสาธารณสุข แต่ในทางกลับกันได้สร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อหมอไทยจำนวนมาก เนื่องจากการเรียนการสอนแพทย์แผนไทยในสมัยก่อน ส่วนใหญ่เป็นการเรียนแบบศิษย์ติดตามครู ผู้ที่สนใจอยากเป็นหมอ ต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับหมอที่ตนเลื่อมใสศรัทธา ติดตามรับใช้เป็นลูกมือให้กับท่าน จนเมื่อเก่งกล้าสามารถจึงเป็นหมอรักษาคนไข้ได้ หมอไทยส่วนมากจึงไม่มีประกาศนียบัตรหรือใบรับรองวิทยฐานะ

แต่เนื่องจากความไม่พร้อมในด้านการเรียนการสอน การสอบ และการประชาสัมพันธ์ ผลจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติการแพทย์นี้ จึงทำให้หมอแผนไทยหรือหมอพื้นบ้านที่ไม่มีประกาศนียบัตรกลายเป็นหมอนอกระบบไปทันที หมอไทยจำนวนมากหวาดกลัวความผิด จึงไม่กล้ารับรักษาคนไข้ บ้างเลิกอาชีพ บ้างเผาตำราทิ้ง ในยุคนี้เอง เกิดคำว่ายาผีบอกแพร่หลายขึ้น คือเมื่อคนไข้รับยาจากหมอ ก็ห้ามบอกตำรวจว่าได้จากหมอคนใด

หลังจากพระราชบัญญัติการแพทย์ ..๒๔๖๖ ประกาศใช้ ในปีต่อมา หมอหวานได้ย้ายมาอยู่ทีตึกสร้างใหม่ที่ชื่อ บำรุงชาติสาสนายาไทย โดยยังคงรับรักษาคนไข้ และจำหน่ายยาไทยต่อไป หมอหวานเป็นผู้มีความรู้ทั้งด้านการแพทย์แผนไทยและแผนตะวันตก แม้จะจำหน่ายยาไทย แต่ก็มีอุปกรณ์เครื่องใช้และเครื่องปรุงยาแผนตะวันตก อาทิ หูฟังเสียงหัวใจ หลอดทดลอง หม้อกลั่นยา ตะเกียงแอลกอฮอล์ และตัวยาหรือสารสกัดยาตะวันตก ในร้านยาไทยของหมอหวาน ไม่ปรากฏลิ้นชักเครื่องยาสำหรับให้คนไข้เจียดยาไปต้มรับประทาน ยาทั้งหมดเป็นยาไทยปรุงสำเร็จ สะดวกต่อการรับประทานเช่นเดียวกับยาฝรั่ง บรรจุในขวดยาแบบฝรั่งที่นำเข้าจากต่างประเทศ

อุปกรณ์แพทย์ของหมอหวาน

หูฟังเสียงหัวใจและปรอทวัดไข้ของหมอหวาน

อุปกรณ์ห้องปฏิบัติการของหมอหวาน

อุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการของแพทย์แผนตะวันตกของหมอหวาน

ยาไทยในขวดยาฝรั่ง

ยาไทยในขวดยาฝรั่งซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ

ขวดบรรจุตัวยาต่างประเทศ

ขวดบรรจุสารสกัดและตัวยาแผนตะวันตก

กิจการร้านขายยาบำรุงชาติสาสนายาไทยของหมอหวาน ดำเนินเรื่อยมาจนหมอหวานสิ้นอายุในปีพ..๒๔๗๘ บุตรสาวของหมอหวาน เฉื่อย วรโภค ซึ่งเป็นเภสัชกรแผนไทยได้สืบทอดกิจการต่อมา

เฉื่อย วรโภค

เภสัชกรแผนไทย เฉื่อย วรโภค

และส่งต่อให้แก่ทายาทรุ่นที่ เภสัชกรไทย ออระ วรโภค ซึ่งรับราชการที่คณะเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช ในปีพ..๒๕๒๗

ออระ วรโภค

เภสัชกรแผนไทย ออระ วรโภค

 

แม้ความนิยมในยาไทยจะลดลงอย่างต่อเนื่องตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป จากอดีตที่เคยปรุงยาจำหน่ายนับร้อยตำรับ เหลือเพียงยาหอม ตำรับ แต่กิจการร้านขายยาของหมอหวานก็ยังคงดำรงอยู่ ในปีพ..๒๕๕๑ ภาสินี ญาโณทัย ทายาทรุ่นที่ ได้เข้ารับช่วงดำเนินกิจการต่อมา

ภาสินี ญาโณทัยภาสินี ญาโณทัย ทายาทรุ่นที่ 

 

ปัจจุบัน อาคารบำรุงชาติสาสนายาไทยยังคงทำหน้าที่เป็นร้านขายยาไทย สืบทอดตำรับยาและเจตนารมณ์ของหมอหวาน รอดม่วง ในการดำรงภูมิปัญญายาไทยให้อยู่คู่สังคมต่อไป และฉายภาพร้านขายยาไทยในอดีตผ่านการเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในย่านพระนคร

 -------------------------------------------------------------

  รองศาสตราจารย์ประทีป ชุมพลอิทธิพลการแพทย์แผนตะวันตกสมัยล่าอาณานิคมกับความหายนะของการแพทย์แผนไทยประวัติ ปรัชญา นายแพทย์ และตำรายาในแพทย์แผนไทย. (กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์ ๒๕๕๖) หน้า ๖๘

รองศาสตราจารย์ประทีป ชุมพล ๒๕๕๔ยุคมืดทางปัญญาของการแพทย์แผนไทย (ตอนที่ )” (ออนไลน์). คนสุวรรณภูมิ. สืบค้นจาก: https://mgronline.com/daily/detail/9540000042918