
ขี้ผึ้งหรือน้ำมัน แบบไหนดีกว่ากัน
มีคำถามเกิดขึ้นเสมอว่า ระหว่างขี้ผึ้งทาเส้นและน้ำมันทาเส้น อย่างใดมีสรรพคุณมากกว่า หรือได้ผลดีกว่า
ทั้งขี้ผึ้งและน้ำมันทาเส้น ปรุงจากยาตำรับเดียวกัน เมื่อปรุงน้ำมันทาเส้นเสร็จ หากต้องการปรุงเป็นขี้ผึ้งต่อ เภสัชกรผู้ปรุงยาก็จะเพิ่มขี้ผึ้งและเครื่องยาอื่นที่ชะลอยาไว้ในระดับตื้นลงในน้ำมันทาเส้น จึงได้เป็นขี้ผึ้งทาเส้น ดังนั้น ยาทั้งสองขนานจึงมีสรรพคุณเช่นเดียวกัน
ความแตกต่างของยาทาเส้นสองรูปแบบจึงมีเพียงว่า ขี้ผึ้งทำงานในระดับตื้น ส่วนน้ำมันทำงานในระดับลึก
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า น้ำมันทาเส้นน่าจะดีกว่าเนื่องจากซึมลงไปได้ลึกกว่า แต่แท้จริงแล้ว หากสาเหตุอยู่ในระดับตื้น น้ำมันอาจซึมผ่านบริเวณที่มีปัญหาไปได้จึงไม่ได้รักษาในบริเวณนั้น ดังนั้น หากใช้น้ำมันทาเส้นแล้วไม่เห็นผล จึงอาจต้องเปลี่ยนมาใช้ขี้ผึ้งทาเส้น หรือในทางกลับกัน หากใช้ขี้ผึ้งแล้วไม่เห็นผล อาจต้องเปลี่ยนมาใช้น้ำมัน
สมนาคุณพิเศษสำหรับผู้นิยมน้ำมันทาเส้น
เพื่อพิสูจน์ความตื้น-ลึก ของขี้ผึ้งและน้ำมันทาเส้น
๑. น้ำมันทาเส้นสูตรดั้งเดิม ๕๐ มล. ๒ ขวด มาพร้อมขี้ผึ้งทาเส้นสูตรดั้งเดิม ๑๐ กรัม ๑ หลอด
ราคาชุดละ ๑,๐๒๐ บาท หรือ
๒. น้ำมันทาเส้นสูตรร้อน ๕๐ มล. ๒ ขวด มาพร้อมขี้ผึ้งทาเส้นสูตรร้อน ๑๐ กรัม ๑ หลอด
ราคาชุดละ ๑,๐๒๐ บาท
เฉพาะทาง
เว็บไซต์นี้
FB: หมอหวาน
Line: @mowaan
บำรุงชาติสาสนายาไทย โทร. ๐๒-๒๒๑-๘๐๗๐
วันนี้ - ๓๐ มิ.ย.๖๖
เย็น หรือ ร้อน เมื่อเกิดอุบัติเหตุควรใช้สูตรใด
น้ำมันทาเส้นสูตรดั้งเดิมหรือที่นิยมเรียกกันว่าสูตรเย็นและน้ำมันทาเส้นสูตรร้อน ปรุงจากเครื่องยาตำรับเดียวกัน ซึ่งมีฤทธิ์ร้อนและเย็นอยู่ในตำรับ ความแตกต่างของน้ำมันทาเส้น ๒ สูตร เกิดจากการเพิ่มเครื่องยาฤทธิ์ร้อนลงในสูตรดั้งเดิม เพื่อให้ตัวยาลงไปรักษาได้ลึกขึ้น จึงกลายเป็นน้ำมันทาเส้นสูตรร้อน
เมื่อเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น มีดบาด มีแผลสด หกล้ม เส้นพลิก ขัดยอกเคล็ดแคลง ควรทาด้วยน้ำมันทาเส้นสูตรดั้งเดิม เนื่องจากมีสรรพคุณ
- ห้ามเลือด สมานแผลสด
- คลายเส้นที่ยึดตึง เคล็ดยอก
- รักษาอาการอักเสบ ปวดบวม แดง
- ประสานกระดูก
ของขวัญลายพราง
ของขวัญลายพรางของหมอหวาน เกิดจากแรงบันดาลใจในการตระหนักถึงคุณค่าของป่า ต้องการมอบของขวัญเพื่อบำรุงใจผู้พิทักษ์ป่า จึงจัดทำขึ้นเฉพาะกิจในการมอบแต่ละครั้ง แต่การที่ลายพรางเป็นลายที่มีความเฉพาะตัว จึงมีคำถามเกิดขึ้นบ่อยครั้งว่า มีจำหน่ายหรือไม่
เพื่อเป็นของขวัญสำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้นิยมในงานออกแบบ หมอหวานจึงจัดทำของขวัญในถุงลายพรางขึ้น โดยประกอบด้วย ยาทาที่ท่านจะได้ใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นยาที่ขาดไม่ได้เมื่อไปป่าหรือยามเดินทางในธรรมชาติ
ราคาชุดละ ๔๔๕ บาท
ยาหอมอินทจักร์ - ยาหอมแก้ลมกองหยาบ
ยาหอมที่แก้ลมกองหยาบซึ่งเป็นที่รู้จักและใช้กันมานาน คือ ยาหอมอินทจักร์ ปรากฏชื่อในตำรายาสภาอุณาโลมแดง ซึ่งรวบรวมตำรับยาไทยที่ใช้ปรุงเพื่อส่งไปช่วยรักษาทหารและราษฎรที่ร่วมรบในสงครามระหว่างไทยและฝรั่งเศส กรณีพิพาทดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ร.ศ.๑๑๒ และในหนังสือ “แพทย์ตำบล” ของ พระยาแพทยพงศาวิสุทธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) ซึ่งเป็นหนังสืออ้างอิงของแพทย์ที่ไปประจำรักษาผู้ป่วยตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ในสมัยรัชกาลที่ ๖
รางวัลพิพิธภัณฑ์เพื่อชุมชนและสังคม ประจำปี ๒๕๖๔
๑๙ ก.ย.๖๔ ขอขอบพระคุณคณะกรรมการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ผู้พิจารณารางวัล ที่คัดเลือกให้บ้านหมอหวาน ได้รับรางวัลพิพิธภัณฑ์เพื่อชุมชนและสังคม ประจำปี ๒๕๖๔ (The Best Museum for Community Awards 2021) ในฐานะพิพิธภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมกับชุมชนและสังคม ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-๑๙

ของขวัญชุดใหญ่
ของขวัญชุดเล็ก
รางวัลองค์กรดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทย ประจำปีพ.ศ. ๒๕๖๒
๒ ต.ค. ๖๒ บำรุงชาติสาสนายาไทยได้รับรางวัลองค์กรดีเด่นด้านการแพทย์แผนไทย ประจำปีพ.ศ. ๒๕๖๒ เงินทุนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท เพื่อสนับสนุนวิชาการแพทย์แผนไทย มอบโดยวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รางวัลดีเด่นประเภทพิพิธภัณฑ์ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประจำปีพ.ศ. ๒๕๖๒
๒๙ ส.ค. ๖๒ บำรุงชาติสาสนายาไทยได้รับรางวัลดีเด่นประเภทพิพิธภัณฑ์ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านอนุรักษ์และสืบสาน ประจำปีพ.ศ. ๒๕๖๒ โดยพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้หรือมิวเซียมสยาม

หมอหวาน รอดม่วง
หมอหวาน รอดม่วง เกิดเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๑๓ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ ในอดีต หมอไทยแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ หมอหลวง ซึ่งรักษาในราชสำนัก และหมอเชลยศักดิ์หรือหมอราษฎร ซึ่งรักษาประชาชนทั่วไป หมอหวานเป็นหมอเชลยศักดิ์ แม้มิได้สังกัดกรมหมอหลวง แต่ได้มีโอกาสถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ อัครมหาเสนาบดี ในรัชกาลที่ ๖ โดยหมอหวานได้รับประทานกล่องเครื่องประดับจาก ม.จ.หญิงพิจิตรจิราภา เทวกุล พระธิดา เป็นที่ระลึกจากการถวายการรักษาเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ประชวรครั้งสุดท้าย
บำรุงชาติสาสนายาไทย หรือ บ้านหมอหวาน
อาคารบำรุงชาติสาสนายาไทย หรือ บ้านหมอหวาน สร้างขึ้นในปีพ.ศ. ๒๔๖๗ เป็นอาคารพาณิชย์กึ่งปูนกึ่งไม้ ๓ ชั้นในรูปแบบโคโลเนียล ชิโน-โปรตุกีส จากรูปแบบและลวดลายปูนปั้นที่ปรากฏบนตึก สันนิษฐานว่าออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนที่เข้ามารับราชการในสมัยรัชกาลที่ ๖ เจ้าของเดิมของอาคารคือ หมอหวาน รอดม่วง แพทย์แผนไทยผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ – รัชกาลที่ ๘
เพื่อสืบต่อลมหายใจของยาหอม
ลูกอมชื่นจิตต์ ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นยาหอมในรูปแบบของลูกอม เหมาะกับวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน สะดวก รับประทานง่าย เป็นลูกอมช่วยย่อย แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้วิงเวียน เมารถเมาเรือ แก้เสมหะ แก้ไอ ใช้อมก่อนนวดเพื่อให้ตัวเบาสบาย เป็นหนึ่งในสิบของนวัตกรรมสมุนไพรที่ได้รับการสนับสนุนจากจากสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กระทรวงอุตสาหกรรม
ขอบคุณที่สนับสนุนยาไทย
ขอขอบคุณ Magazine B นิตยสารเกี่ยวกับแบรนด์ ที่แนะนำขี้ผึ้งทาเส้นของหมอหวานสำหรับผู้ที่มาเยือนกรุงเทพฯ ในฉบับที่ ๗๔ “BANGKOK”
“Baan Mowaan is a pharmacy in the old city that goes back 100 years. It’s been passed on from grandmother to granddaughter and specialises in natural herbal cures. Massage their green balm into your skin when you’re feeling sore or stiff, and you’ll see why it’s Mowaan best seller.”